Car Free Day บ้านทุ่งแบบชาวบ้านโดยชาวบ้านเพื่อชาวบ้านที่ดงกลาง

Car Free Day บ้านทุ่ง แบบชาวบ้าน โดยชาวบ้าน เพื่อชาวบ้าน ที่ดงกลาง

เดี๋ยวนี้ใครๆก็จัดงาน “วันปลอดรถ” หรือ Car Free Day กัน และเท่าที่ทำกันเป็นส่วนใหญ่ ผู้เข้าร่วมก็จะเป็น “นักจักรยาน” ที่เดินทางจากที่ต่างๆ แม้ห่างไกลไม่ใช่ “บ้าน” หรือท้องถิ่นตนเองมาร่วมงาน หลายคนใช้รถยนต์บรรทุกจักรยานมา (ซึ่งตรงข้ามกับวัตถุประสงค์ของ Car Free Day ) พวกเขามักใช้จักรยานเสือภูเขา เสือหมอบ ฯลฯ ราคาสูงและแต่งตัวด้วยชุดจักรยานเต็มที่ มาเอาเสื้อยืดที่ผู้จัดงานทำขึ้นมาแจกให้เปล่าสำหรับงานนี้โดยเฉพาะสวมทับเข้าไป รวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ขี่รณรงค์ในเมือง จึงทำให้งาน Car Free Day ที่ชมรมจักรยานดงกลางจัดขึ้นที่ตำบลดงกลาง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นงานที่แตกต่างน่าสนใจ

          ชมรมจักรยานดงกลางเกิดขึ้นจากการรวมตัวชาวบ้านในตำบลดงกลางหลังจากมูลนิธิโอกาสเข้ามาดำเนินงานโครงการชุมชนจักรยานชุมชนสุขภาวะ ภายใต้โครงการผลักดันการเดินและการใช้จักรยานในชีวิตประจำวันไปสู่นโยบายสาธารณะของประเทศไทย ของชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย ด้วยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ และมีความคืบหน้ามาเป็นลำดับ โดยได้รับการสนับสนุนร่วมกันส่งเสริมการใช้จักรยานของชาวบ้านจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนตำบลดงกลาง (อบต.ดงกลาง) และพระครูวิจารณ์ธรรมโสภิต เจ้าอาวาสวัดดงกลาง มีการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีทางหลวงชนบทจังหวัดพิจิตรร่วมด้วย

          เมื่อ Car Free Day มาถึง แม้ในจังหวัดพิจิตรจะมีการจัดงานในตัวเมืองที่มีนักจักรยานเข้าร่วมเป็นส่วนใหญ่เช่นเดียวกับจังหวัดต่างๆ ปีนี้ชาวบ้านดงกลางก็ได้จัดงานกันขึ้นมาเองเป็น Car Free Day บ้านทุ่ง แบบชาวบ้าน โดยชาวบ้าน เพื่อชาวบ้าน ที่ตำบลดงกลาง โดยในวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๗ ชาวบ้านได้ทยอยกันมารวมตัวที่ลานวัดดงกลาง เฉพาะที่ลงทะเบียนก็มีจำนวนกว่า ๒๕๐ คน ในชุดแต่งกายธรรมดาๆ แบบชาวบ้านและ “จักรยานแม่บ้าน” ที่พวกเขาใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน ไปสวนไปนา ไปเก็บผักมาทำอาหารหรือขายส่ง ไปตลาด ไปโรงเรียน ฯลฯ โดยมีสื่อมวลชนและฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่ได้รับการแจ้งข่าวจากชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย จากสถานีและผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ ทั้ง Free TV และ Cable TVวิทยุและวิทยุชุมชน หนังสือพิมพ์ หน่วยงานราชการ และองค์กรของสื่อมวลชน เดินทางจากกรุงเทพฯ มาทำข่าวถึง ๑๗ สำนัก/หน่วยงาน/องค์กร รวมทั้งสิ้น ๔๐ คน รวมทั้งคุณศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ “ธรรมชาติมาหานคร” ที่ได้มาถ่ายทำรายการเป็นพิเศษด้วย

          งานนี้ได้รับเกียรติจากนายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน พร้อมคุณนายผู้ว่าฯ และนายโกสินทร์ ศรีเพชรพงษ์ นายอำเภอเมืองพิจิตร ในดงกลางเองมีทั้งนายปรีชา โพธิ์แก้ว นายกอบต.ดงกลาง คนปัจจุบัน และนางภาวดี เนตรภู่ อดีตนายกซึ่งมีส่วนสำคัญในการดำเนินโครงการชุมชนจักรยานที่นี่ในช่วงสามปีแรก, นายสายชล ปานพิมพ์ กำนันตำบลดงกลาง, นายเฉลิมศักดิ์  พฤกษะวัน ผู้อำนวยการโรงเรียนดงกลาง และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ มีการมอบรางวัลให้กับนักเรียนที่ชนะการประกวดภาพวาดและเรียงความเรื่อง “จักรยานของหนู” (ซึ่งที่หนึ่งทั้งสองประเภทได้จักรยานคันงามเป็นรางวัลด้วย)  จากนั้นชาวบ้านที่เข้าร่วมงานได้ร่วมกันขี่จักรยานเป็นขบวนจากวัดดงกลางไปตามถนนชนบท ทั้งถนนลาดยาง ถนนคอนกรีต ถนนลูกรัง และถนนดิน ที่เชื่อมโยงหมู่บ้านทั้งเก้าแห่งของตำบลเข้าด้วยกัน ผ่านบ้านเรือนเรือกสวนไร่นา วัดอีกสามวัดในพื้นที่คือ วัดใหม่คำวัน วัดดงป่าคำ และวัดขนุน ทั้งหมดเป็นวัดเก่าที่มีประวัติมายาวนาน และบึงอ้ายจ๋อ แหล่งน้ำสำคัญของตำบล และกลับมาสิ้นสุดที่วัดดงกลาง เป็นระยะทางประมาณ ๒๐ กิโลเมตร  มีการถวายใบประกาศเชิดชูเกียรติให้กับพระครูวิจารณ์ธรรมโสภิต เจ้าอาวาสวัดดงกลาง จากบทบาทดีเด่นเป็นศูนย์รวมใจและความคิดหลายด้านในการส่งเสริมการใช้จักรยานในชีวิตประจำวันของตำบลดงกลาง จากนั้นชาวบ้านก็ได้ร่วมกันรับประทานอาหารที่ต่างคนต่างพากันหิ้วปิ่นโตมาจากบ้าน  ระหว่างนั้นได้มีการวงเสวนาเกี่ยวกับการใช้จักรยานในตำบล โดยผู้นำท้องถิ่นข้างต้นร่วมการพูดคุยถึงความเป็นมา ปัจจัยสำคำที่ทำให้ชุมชนชาวดงกลางหันมาใช้จักรยานกันมากขึ้น แนวทางการส่งเสริมและขยายผลต่อไป

     อนึ่งในระหว่างเดินทางมาจังหวัดพิจิตร ทีมงานได้พาสื่อมวลชนส่วนหนึ่งลงเยี่ยมชมการดำเนินงานของโครงการริเริ่มก่อร่างสร้างตัวสู่เป้าหมายชุมชนท่องเที่ยวบ้านสะแกกรังด้วยจักรยานและการเดิน อันเป็นโครงการชุมชนจักรยานโครงการหนึ่งที่ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุนในพื้นที่บ้านสะแกกรังหรือตำบลอุทัยใหม่ในตัวเมืองจังหวัดอุทัยธานีด้วย

รายงานโดย  กวิน ชุติมา

กรรมการ

ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย

Print PDF