Home / ข่าวและกิจกรรม / ข่าวสาร / ความคืบหน้าคดีคนเมาขับชนนักจักรยานเสียชีวิตสามคนที่เชียงใหม่ (ต.ค. 2558)

ความคืบหน้าคดีคนเมาขับชนนักจักรยานเสียชีวิตสามคนที่เชียงใหม่ (ต.ค. 2558)

ความคืบหน้าคดีคนเมาขับชนนักจักรยานเสียชีวิตสามคนที่เชียงใหม่ (ต.ค. 2558)

ตามที่ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทยได้ช่วยประสานงานทนายในเครือข่ายสภาทนายความฯ มาว่าความคดีคนเมาขับรถชนนักจักรยานเสียชีวิตสามคนที่เชียงใหม่เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2558และได้รายงานข่าวความคืบหน้าเป็นระยะไปแล้วนั้น (ดูข่าวครั้งก่อน “ศาลเชียงใหม่เลื่อนการตัดสินคดีคนเมาขับรถชนนักจักรยานเสียชีวิต” http://www.thaicyclingclub.org/article/detail/6972) ล่าสุดชมรมฯได้รับทราบความคืบหน้าของคดีในเดือนตุลาคมมาอีก จึงขอนำมารายงานดังนี้

เมื่อวันที่ 2ตุลาคม 2558ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดกระบวนการสมานฉันท์ระหว่างฝ่ายโจทก์กับฝ่ายจำเลยขึ้นตามที่ได้แจ้งในการพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 9 กันยายน โดยผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเชียงใหม่มาเป็นประธาน  ท่านผู้พิพากษาได้ชี้แจงที่มาของการจัดประชุมนี้ว่า ปัจจุบันศาลได้นำกระบวนยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มาใช้กับคดีเพื่อให้คู่กรณีปรับความเข้าใจกัน พูดคุยหาทางออกร่วมกันในประเด็นเยียวยาความเสียหายในทางแพ่ง แม้ว่าคู่กรณีไม่อาจให้อภัยกันได้  กระบวนการสมานฉันท์นี้ใช้ได้ผลในต่างประเทศ ศาลไทยจึงได้นำมาทดลองใช้บ้าง โดยเริ่มต้นในสามจังหวัด รวมทั้งเชียงใหม่ 

ผลปรากฏว่าไม่สามารถ “สมานฉันท์” กันได้ เนื่องจากขณะที่ฝ่ายโจทก์เรียกค่าเสียหายรายละไม่น้อยกว่าสี่ล้านบาท จำเลยยังแถลงว่าจะบรรเทาความเสียหายที่ 100,000 บาทต่อราย โดยวางเงินศาลแล้วรายละ 70,000บาท และจะวางเพิ่มอีกรายละ 30,000บาท และยืนยันว่าไม่มีศักยภาพที่จะบรรเทาความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก  ท้ายสุด ศาลสอบถามอีกครั้งหนึ่งถึงความเป็นไปได้ในอนาคตที่จำเลยจะขวนขวายหาเงินเพื่อบรรเทาความเสียหายเพิ่มขึ้น

ต่อมา ในวันนัดพิจารณาคดี คือวันที่ 13ตุลาคม 2558ศาลมีคำสั่งเรียกนางสาวก้องกานต์ ย่องลั่น, นางสาวนินนท์ ย่องลั่น, นางปราณี กันธา, นายแก้ว คำแก้ว, นางแก้ว คำแก้ว  และ รต.สุพล ตาสิงห์ โจทก์ร่วมที่ 1ถึงที่ 6 ให้มาร่วมการพิจารณาคดีด้วย   เนื่องจากกระบวนการสมานฉันท์-การไกล่เกลี่ยระหว่างโจทก์ร่วมที่ 1 ถึงที่ 5 เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ไม่ประสบผลดังข้างต้น  ทนายของโจทก์ร่วม 1-5 แถลงว่าจึงขอดำเนินการทางคดีต่อ และขอสืบพยานโจทก์ร่วม 1,2 = 2 ปาก,โจทก์ร่วม 3,4 = 2 ปาก และโจทก์ร่วม 4,5= 2 ปาก  ขณะที่จำเลยแถลงขอสืบเหตุบรรเทาความเสียหาย 1ปากโดยจะแต่งทนายความเข้ามาในคดีนี้ก่อนนัดหน้า    อย่างไรก็ตาม ในระหว่างพิจารณาคดี  ศาลก็ยังได้กำชับให้จำเลยขวนขวายหาทางบรรเทาความเสียหายโจทก์ร่วมอีกครั้งหนึ่ง   ส่วนทางด้านโจทก์ร่วมที่ 6 ซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากการชนนั้น ทนายแถลงว่าได้เข้าศูนย์ไกล่เกลี่ยแล้ว บริษัทประกันภัยตกลงจ่ายค่าเสียหาย 210,000 บาท และจำเลยจะชดใช้อีก 60,000 บาท ชำระไปแล้ว 30,000 บาท ที่เหลือจะผ่อนชำระเดือนละไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท เป็นเวลา 10 เดือน จึงตกลงจะทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลก่อนวันนัดและไม่ติดใจเรียกร้องทั้งทางแพ่งและอาญา

ศาลสรุปการพิจารณาคดีในวันนั้นด้วยการนัดสืบพยานโจทก์ร่วมและจำเลย ในวันที่ 16, 17 และ 18มีนาคม 2559

หลังพิจารณาคดี  เจ้าหน้าที่จิตสังคมจากคลินิกให้คำปรึกษาด้านจิตสังคม ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ได้ฝากหนังสือเชิญโจทก์ร่วมที่ 1 – 6เข้าร่วมกระบวนการจิตสังคมด้วย เนื่องจากโจทก์ร่วมเองก็ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างหนักจากเหตุการณ์ โดยให้โจทก์ร่วมไปติดต่อนัดหมายเองหากไม่ขัดข้อง

ท้ายสุด ทนายรายงานด้วยว่า ได้ทราบว่าในวันนั้น ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีเมาแล้วขับรถชนคนตายอีกคดีหนึ่ง ซึ่งคาดว่าเหตุเกิดมาราวหนึ่งปีแล้ว  ในคดีนั้นจำเลยตกลงบรรเทาความเสียหาย 600,000บาท ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาลงโทษจำคุก 3ปี โดยไม่รอการลงโทษ

ชมรมฯจะนำความคืบหน้าของคดีนี้มาเสนอต่อไป

รายงานโดย  กวิน ชุติมา

กรรมการ ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย 

Comments

comments

Check Also

ชมรมฯ ร่วมงาน a day BIKE FEST 2016

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น