ทางเดินที่เดินได้นี้ ผมไม่ได้หมายถึงทางเดินหรือทางเท้าที่ลุกขึ้นมาเดินเองได้ เพราะนั่นเป็น หนังการ์ตูน ซึ่งจะจินตนาการอย่างไรก็ได้ แต่ผมหมายถึง “ทางเดิน” หรือ “ทางเท้า” ที่ผู้คนใช้เดินได้
เอ๊ะ! มีด้วยหรือ ทางเดินที่เดินไม่ได้ บางคนอาจถาม…
มีครับ ทางเดินหรือทางเท้าที่ใช้เดินแต่เดินไม่ได้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายอย่าง เช่น มีหาบเร่มีแผงลอยมาตั้งวางจนเกือบเต็มพื้นที่และมีคนมาหยุดยืนซื้อของกันแน่นไปหมด หากอยากเดินก็ต้องแทรกหรือเบียดตัวเข้าไป ถ้าใครมีธุระเร่งรีบก็มักจะลงไปเดินบนถนน ซึ่งดูจะเร็วและสะดวกกว่าทางเท้าหรือทางเดินที่มีไว้เดินแต่เดินไม่ได้ดังที่ว่า
แต่ก็เอาเถอะ ถึงแม้จะต้องลงไปเดินบนถนนซึ่งไม่ได้สะดวกและปลอดภัยนัก แต่มันก็เป็นวิถีชีวิตของสังคมไทย จะดีชั่วอย่างไรก็ต้องหาทางปรับแก้กันต่อไป
ทว่า…สิ่งที่ไม่น่าเป็นปัญหา แต่กลับเป็นปัญหาต่อการใช้ทางเท้ามาเป็นทางสำหรับคนเดิน ก็คือ ทางเท้าบางแห่งมันแทบเดินไม่ได้เอาเสียเลย ไม่ว่าจะทรุด หรือเป็นปัญหาจากการเป็นหลุมเป็นบ่อ หรืออิฐตัวหนอนที่ปูเอาไว้มันกระเดิด เดินแล้วสะดุดหัวทิ่วหัวตำ เช่น บริเวณหน้าโรงพยาบาลพระมงกฎเกล้า ใครเดินได้สะดวกกายสบายใจ เดินได้โดยไม่ต้องก้มลงมองแต่ละย่างก้าวของตัวเอง ไม่ตกหลุมไม่สะดุด ให้ไปรับรางวัลจากผมได้
หรือบางที่ก็ทำไว้สูงจากพื้นถนนเป็นฟุต นัยว่าจะเอาไว้หนีน้ำท่วม(ซึ่งความจริงแล้วมันเป็นคนละเรื่อง วันหลังจะเขียนอธิบายว่ามันเป็นคนละเรื่องกันอย่างไร)ทำเอาคนแก่ คนพิการที่ตาบอด หรือใช้ล้อเลื่อน เดินหรือสัญจรไม่ได้
ปัญหานี้เป็นปัญหาปากคอก แก้ได้ไม่ยาก เพียงแต่ใส่ใจกับการทำแบบแปลนและการควบคุมงานก่อสร้างสักนิด แต่เนื่องจากทางเท้าเป็นงานวิศวกรรมโยธาที่ง่ายที่สุด และใช้งบประมาณน้อยที่สุด คนรับผิดชอบจึงมักไม่ค่อยสนใจในรายละเอียด คิดว่างานง่าย งานไม่แพง เป็นงานไม่สำคัญ ทั้งๆที่มันกระทบกับคนหมู่มากของสังคม
อันที่จริงงานทางเท้าควรได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษให้มากกว่าการทำถนนด้วยซ้ำ ไม่ว่าเป็นเรื่องการออกแบบ ควบคุมการก่อสร้าง การใช้งาน การบำรุงรักษา และการใช้งบประมาณ(ให้พอ)
ทางเท้าดีๆในเมืองไทยไม่ใช่ว่าจะไม่มี ทางเท้าตัวอย่างที่เรียบ เดินไม่สะดุด ไม่มีเสาไฟฟ้า ตู้โทรศัพท์ หัวดับเพลิง ป้ายรถเมล์ ป้ายโฆษณา มาขวางสลับไปมา เพราะกทม.ได้ย้ายของพวกนี้และจัดวางใหม่ให้เป็นแนวเดียวกันคือถนนพหลโยธิน ตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปจนถึงสะพานควาย แต่ก็ดีอยู่ได้ไม่นานเพราะมีหน่วยงานอื่นมาขุดวางท่อร้อยสายไฟฟ้าหรือสายโทรศัพท์ ก็ไม่รู้ว่าวางเสร็จแล้วทำไมไม่ทำของดีๆของเขากลับมาให้ดีเหมือนเดิมไม่ได้ แค่นั้นยังไม่พอ ยังมีกล่องคอนกรีตขนาดยักษ์สูงจากพื้นสองเมตรมาขวางทางเดินอีกเป็นระยะๆ ทำให้ทางเดินแคบลงเหลือประมาณเมตรเดียว
สงสัยว่าคนออกแบบจะไม่เคยลงมาเดินบนทางเท้าที่ตัวเองสร้างเสร็จ จึงไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนทำไปนั้นได้ก่อให้เกิดความไม่สะดวก และเกิดทุกข์ภัยกับคนอื่นจำนวนมากเพียงใด แต่จะไปโทษคนออกแบบหรือก่อสร้างแต่ฝ่ายเดียวก็คงทำไม่ได้เต็มที่นัก ของแบบนี้มันต้องพูดกันถึงระดับนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นนโยบายของผู้ว่ากทม.หรือนายกเทศมนตรีในการวางแผนเมืองหรือก่อสร้างเมืองหรือวางสาธารณูปโภค ที่ต้องให้ประชาชนเป็นตัวตั้ง เอาประโยชน์ของเขาเป็นใหญ่ ไม่ใช่เอาความสะดวกหรือความง่ายของเจ้าหน้าที่หรือขององค์กรตัวเองเป็นหลัก
ถ้าทำได้แบบนี้ ทางเดินก็จะเป็นทางเดินที่เดินได้ อย่างที่จั่วหัวไว้เป็นหัวเรื่อง แล้วทุกคนก็จะมีความสุข
ศ.กิตติคุณ ดร. ธงชัย พรรณสวัสดิ์
บทความนี้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓