Home / บทความ / ปั่นไป ใส่ใจชุมชน

ปั่นไป ใส่ใจชุมชน

           ปั่นไป ใส่ใจชุมชน กับอาสาสมัคร รพ.สต. บุญศิริ

   ฝนโปรยอ่อนๆ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ถนนคับแคบในซอยบุญศิริ ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เปียกลื่นเฉอะแฉะ รถราต่างชะลอความเร็วจนติดแน่นทั้งสองเลน ตามมาด้วยเสียงบีบแตรดังระงม

         ความโกลาหลเบื้องหน้า มิได้ทำให้นายแพทย์ชัยณรงค์ สมชาติ และคณะอาสาสมัครโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต.บุญศิริ ต้องหวั่นไหว พวกเขายังคงปั่นจักรยานตามกันเป็นขบวน ใบหน้ายิ้มแย้มสบายใจแซงขวาแซงซ้ายอย่างพลิ้วไหว คล่องตัว

         “แต่ก่อนสถานีอนามัยเรามีรถปิกอัพไว้ใช้งานแค่คันเดียว จะออกไปเยี่ยมผู้ป่วยทีก็ลำบากรถไม่พอ แถมผู้ป่วยก็เยอะ สภาพพื้นที่แถวนี้ยังเป็นซอยแคบๆกว่าจะขับรถไปถึงกว่าจะวนหาที่จอดรถก็หมดวันพอดี”

         คุณหมอชัยณรงค์ อดีตแพทย์กุมารเวช และรอง ผอ. ฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลสมุทรปราการ วัย 65 เล่าให้ฟัง แม้จะเกษียณราชการมาพักใหญ่แล้ว แต่เขายังอุทิศเวลาให้กับการดูแลรักษาคนไข้ ผ่านการเป็นที่ปรึกษาให้กับสถานีอนามัยเล็กๆ 3 แห่ง ในจังหวัด ได้แก่ พื้นที่ตำบลบางเมือง ร่มโพธิ์ และบุญศิริ

         เหตุผลของการนำจักรยานเข้ามามีบทบาทในการทำงานแทนรถยนต์ เป็นเรื่องความคล่องตัว ประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย และส่งเสริมสุขภาพให้ดีขึ้น

“โดยส่วนตัว ผมปั่นเสือภูเขามาเป็นสิบปีแล้วยังเป็นหนึ่งในสมาชิกชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย ผมเลยตัดสินใจใช้จักรยานเป็นพาหนะในการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ป่วย ใช้ชื่อโครงการว่า อสม.ปั่นไป ใส่ใจชุมชน เริ่มต้นเมื่อปี 2554”

ทุกวันหลังเที่ยงจะเป็นช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร และพยาบาลของ รพ.สต.บุญศิริ กว่า 10 ชีวิต จะกระโดดขึ้นจักรยาน ปั่นไปตามบ้านคนไข้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็น คนชรา คนพิการ และผู้ป่วยที่เป็นเรื้อรัง  รัศมี 5 กิโลเมตรอันประกอบด้วยชุมชนแออัด หมู่

บ้านจัดสรร สลับย่านตลาดร้านค้า วัดวาอาราม จนถึงโรงงานอุตสาหกรรม

         ภาพที่ชาวบ้านละแวกนี้เห็นเป็นประจำคือภาพคุณหมอชัยณรงค์นำทีม อสม. ปั่นจักรยานแม่บ้านเรียงแถวกันเป็นขบวน แล่นฉิวเข้าซอยโน้น ทะลุซอยนี้ ภายใต้ยูนิฟอร์มเสื้อเชิ้ตสีเขียวมะนาวสดใส ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบคนไข้อย่างใกล้ชิด วัดความดัน เจาะเลือด ตรวจโรค ทำแผล จ่ายยา รวมทั้งปรึกษาให้คำแนะนำทั้งเรื่องสุขภาพและชีวิตส่วนตัวราวกับเป็นญาติสนิท สร้างรอยยิ้ม สร้างขวัญและกำลังใจแก่บรรดาชาวบ้านที่กำลังทุกข์ยากให้กลับมาสดชื่น มีชีวิตชีวา

         “ข้อดีของการใช้จักรยาน ป้าว่ามันคล่องตัวกว่ารถใหญ่ จากที่เคยเยี่ยมได้วันละเคสสองเคสเดี๋ยวนี้ 5 เคสก็ยังสบาย” ป้าอุ๊ หนึ่งใน อสม. นักปั่นบอก

ขณะที่สมาชิก อสม. คนอื่นเล่าว่า นอกจากเยี่ยมคนไข้ที่บ้าน การปั่นจักรยานยังได้หยุดแวะทักทาย พูดคุยกับชาวบ้านที่เป็นคนไข้ในชุมชนตรงไหนก็ได้ตามสะดวก ช้าๆ เรื่อยๆ ไม่รีบร้อน ได้งาน แถมยังได้ออกกำลังกายด้วย

         ความน่าทึ่งของคุณหมอนักปั่นแห่ง รพ.สต.บุญศิริ ยังมีอีกหลายอย่าง อาทิ การนำจักรยานเข้าไปแก้ปัญหาเรื่องเด็กอ้วน รณรงค์ปั่นจักรยานห่างไกลยาเสพติด หรือปลูกฝังให้เด็กหันมาใส่ใจวิถีสองล้อในช่วงปิดเทอม แทนที่จะฝังตัวอยู่แต่ในร้านเกม

      “ทุกครั้งที่ออกไปปั่นเยี่ยมคนไข้ ก็หวังลึกๆให้ชาวบ้านหันมาสนใจการปั่นจักรยาน หันมาออกกำลังกาย หันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้นและถ้าเป็นไปได้อยากเป็นแรงบันดาลใจให้สถานีอนามัยอื่นๆ หันมาใช้จักรยานลงพื้นที่เยี่ยมคนไข้ตามชุมชนเหมือนพวกเรา” รอยยิ้มของคุณหมอชัยณรงค์เป็นประกายแจ่มจ้าบนใบหน้า

เรื่องและภาพ : อินทรชัย  พาณิชกุล

คอลัมน์  Cycling Last Ride , นิตยสาร  Cycling Plus THAILAND ,

ISSUE 03 August 2013

Comments

comments

Check Also

แล้ว SDG มันมาเกี่ยวอะไรกับเรื่อง เดินเรื่องจักรยาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น