นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2558 ที่นางแอน ฮิดาลโก นายกเทศมนตรีนครปารีส นำเอามาตรการ “วันไร้รถ” (No Car Day) มาทดลองใช้หนึ่งวันในเมืองหลวงของฝรั่งเศส เพื่อลดมลพิษทางอากาศและทางเสียง ตามที่ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทยได้รายงานไปแล้วนั้น ปรากฏว่าชาวปาริเซียนต้อนรับมาตรการนี้เป็นอย่างดี ต่อมาเธอจึงได้ขยายการมี “วันไร้รถ” มาเป็นเดือนละวัน
กว่าหนึ่งปีที่ดำเนินการมา มาตรการนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นความสำเร็จในทุกทาง แม้จะห้ามรถในวันนั้นเพียง 7 ชั่วโมง (11.00 – 18.00 น.) ก็ยังสามารถลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์(ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกตัวร้าย ร้ายกว่าคาร์บอนไดออกไซด์เสียอีก) ในย่านหลักของเมืองที่ห้ามรถเข้าไป โดยเฉพาะตามริมแม่น้ำเซนและย่านใจกลางเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นที่สุด ลงได้ในวันนั้นถึงร้อยละ 40 และลดในบริเวณอื่นของเมืองที่ไม่ได้ห้ามรถลงได้ร้อยละ 20 (ต้องบอกว่า ความจริงนายกเทศมนตรีฮิดาลโกอยากใช้มาตรการนี้กับทั้งเมือง แต่ตำรวจไม่ยอมครับ ให้แค่ร้อยละ 30 ของเมืองเท่านั้น)
ชาวเมืองเองก็มีความสุข ได้พื้นที่สาธารณะที่ถูกคนส่วนน้อยที่ใช้รถยนต์ยึดครองไปคืนมา พวกเขาจัดงานจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น เล่นฟุตบอล ทำโยคะ และเดินทางไปไหนมาไหนในพื้นที่ห้ามรถด้วยการเดิน ขี่จักรยาน และขนส่งสาธารณะ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนก็พอใจ
Credit: Bold Ride
ปารีสเอามาตรการ “วันไร้รถ” มาใช้หลังจากปารีสกลายเป็นเมืองที่มีมลพิษทางอากาศเลวร้ายที่สุดในโลก เมื่ออากาศเย็นลง ควัน(smoke)จากรถยนต์จะรวมกับหมอก(fog)กลายเป็นสม็อก(smog) ที่ครอบคลุมเมืองอย่างหนักจนแทบจะมองไม่เห็นหอไอเฟล สัญญลักษณ์ของเมือง
Credit: The Guardian
———————————————————————————————————————————————–
กวิน ชุติมา กรรมการชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย และกรรมการ-เหรัญญิกสถาบันการเดินและการจักรยานไทย เก็บความจาก Paris Now Has A Monthly “No Car Day” That Brings A 40% Drop In Air Pollution โดย Brianna Acuesta ใน trueactivist.com