ชมรมฯ ร่วมสนับสนุนผู้ว่าฯ ยโสธร ชวนประชาชนใช้จักรยาน
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร คนปัจจุบันมีวิสัยทัศน์ให้ยโสธรเป็น “เมืองแห่งวิถีอิสาน เกษตรอินทรีย์ก้าวไกลสู่สากล” และยโสธรเป็นเมืองน่าอยู่ด้วย ๗ ส. ได้แก่ สงบ สามัคคี สีเขียว สะอาด ศาสนา เศรษฐกิจพอเพียง และสโลว์ซิตี้ (Slow City)
ในการบรรยายเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเทศบาลนำร่องเมืองคาร์บอนต่ำ-เมืองจักรยาน-เมืองรู้สู้ภัยพิบัติ ที่จัดให้เทศบาลห้าเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เข้าร่วมโครงการสร้างเมืองคาร์บอนต่ำ-เมืองจักรยาน-เมืองรู้สู้ภัยพิบัติ (LCRS) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย สำนักงานเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ(UNISDR) องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก(อบก.) และชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ผู้ว่าฯบุญธรรม ได้ฉายภาพวิสัยทัศน์ดังกล่าว และคลิปวิดิทัศน์การซ้อมการจัดขี่จักรยานในกิจกรรม Bike For Dad เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเปิดตัวคุณยายวัย ๑๐๑ปีที่ยังใช้จักรยานขี่ไปไหนมาไหนด้วย จากนั้นท่านผู้ว่าฯ ก็ได้ประกาศว่าจะนำประชาชนขี่จักรยานเป็นประจำทุกบ่ายวันพุธหลังเลิกงานไปยังส่วนต่างๆ ของเมือง โดยเริ่มเป็นครั้งแรกในวันพุธที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๙ เพื่อเป็นการเชิญชวนให้ชาวเมืองยโสธรออกมาใช้จักรยานในชีวิตประจำวันกันให้มากขึ้น
ผู้ว่าฯยโสธร(คนถือไมโครโฟน)กล่าวเปิดงาน ทางซ้ายผู้ว่าฯในเสื้อขาวลายฟ้าคือนายวีรวัฒน์ ภักตรนิกร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองยโสธร
ทางขวาผู้ว่าฯ ยืนย่อเข่าคือ นายกวิน ชุติมา กรรมการชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย
นายกวิน ชุติมา กรรมการชมรมฯ ในฐานะที่เป็นผู้แทนของชมรมฯ ในคณะกรรมการโครงการ LCRS เห็นว่า การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ชักชวนให้ชาวเมืองใช้จักรยานด้วยการแสดงความเป็นผู้นำออกมาขี่จักรยานด้วยตนเองให้ประชาชนเห็นเป็นประจำเช่นนี้ เป็นการเสริมกับการดำเนินการสร้างเมืองจักรยานของเทศบาลเมืองยโสธรด้วย จึงได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมการขี่จักรยานรอบปฐมทัศน์ของผู้ว่าฯบุญธรรมครั้งนี้ ด้วยการช่วยประสานงานและเอื้ออำนวยความสะดวกต่างๆ รวมทั้งการจัดหาจักรยาน ของนายธำรงค์ ชุมนุม รองปลัดเทศบาล และนางอัญชลี ชุมนุม หัวหน้ากองสาธารณสุข เทศบาลเมืองยโสธร
เมื่อถึงเวลานัด ๑๗.๐๐ น. ผู้ว่าฯ บุญธรรม ในวัย ๕๒ ปีได้ขี่จักรยานจากศาลากลางจังหวัดมาถึงลานกีฬาสำนักงานเทศบาลเมืองยโสธร พร้อมท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยโสธร จากนั้นก็ได้นำข้าราชการ บุคลากรของเทศบาล และประชาชนชาวเมืองยโสธร รวมทั้งสมาชิกของชมรมจักรยานเสือเมืองยศ จังหวัดยโสธร ออกขี่ไปรอบเมือง ผ่านจุดสำคัญต่างๆ เช่น อาคารพญาคันคากและอาคารพญานาคที่สวนสาธารณะลำทวน, สวนสาธารณะพญาแถน, ย่านเมืองเก่าท่าสิงห์, สวนสาธารณบุ่งใหญ่-บุ่งเล็ก(ซึ่งกำลังมีการก่อสร้างทางจักรยาน) เลียบแม่น้ำวกกลับมาเข้าวัดศรีธรรมราชา (วัดหลวงตาพวง) และไปสิ้นสุดที่ศาลหลักเมือง รวมระยะทางประมาณ ๑๐ กิโลเมตร ตลอดการขี่จักรยานชมเมืองครั้งแรกนี้ ผู้ว่าฯบุญธรรมขี่นำไปอย่างคล่องแคล่วทะมัดทะแมง หลังจากกิจกรรมสิ้นสุดลง ผู้ว่าฯ ได้เดินเยี่ยมเยียนประชาชนที่ขายสินค้าที่คนถนนเดินบริเวณนั้นและขี่จักรยานกลับที่พัก โดยมีท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยโสธรและนายกวินขี่ตามไปส่งด้วย
ผู้ว่าฯ ขี่นำขบวนจักรยานผ่านย่านเมืองเก่าสิงห์ท่าของเมืองยโสธร
เมืองยโสธรมีขนาดไม่ใหญ่นัก นอกจากถนนแจ้งสนิทซึ่งเป็นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 23 ที่ผ่าเมืองไป(มีทางเลี่ยงเมืองที่รถใหญ่ไปใช้) ถนนอื่นในตัวเมืองก็สามารถขี่จักรยานได้สบายเนื่องจากรถยนต์ไม่มากแม้ในเวลาเข้างาน-เลิกงาน และยานยนต์ส่วนใหญ่ก็ใช้ความเร็วไม่สูง ค่อนข้างปลอดภัยในการใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน หากได้สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่ม เช่น ที่จอดจักรยานตามสถานที่ที่ประชาชนจะใช้จักรยานไป อย่างตลาด สำนักงานเทศบาล โรงพยาบาล โรงเรียน วัด ฯลฯ และมีการชักชวนส่งเสริมกันอย่างจริงจัง การใช้จักรยานในชีวิตประจำวันของชาวเมืองยโสธรก็น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างสำคัญ ให้เมืองยโสธรก้าวไปสู่การเป็น “เมืองจักรยาน” ได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายหนึ่งของโครงการสร้างเมืองคาร์บอนต่ำ-เมืองจักรยาน-เมืองรู้สู้ภัยพิบัติ ที่เทศบาลเมืองยโสธรเป็นหนึ่งใน 15 เทศบาลทั่วประเทศที่เข้าร่วม และชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทยมุ่งมั่นจะสนับสนุนให้เกิดเป็นจริง
รายงานโดย กวิน ชุติมา
กรรมการ ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย