“รักระหว่างทาง…เท้า” ไม่ได้หมายถึงว่าความรักความอบอุ่นของครอบครัวเค้าจะเกิดขึ้นระหว่างทางเท้าแต่มันมีอยู่แล้ว เกิดขึ้นนานแล้ว..
ง่ายๆไม่โก้หรูแต่เต็มเปี่ยมด้วยความรักความอบอุ่นในครอบครัว โดยไม่มีการสร้างภาพให้ใครดู
.
ท่ามกลางความโกลาหลของผู้คนมากมายขณะที่ผมไปเฝ้าหามุมเก็บภาพควาสะเทือนใจของทางเท้าเพราะอยากนำภาพไปประกวดกับเค้า
บ้าง(ผมไม่ใช่ช่างภาพใช้กล้องคอมแพคถูกๆ)แต่การไปเก็บภาพสะเทือนใจผมกลับได้เห็นภาพอันน่าประทับใจบนเส้นทางเล็กๆที่เรียกว่า
ทางเท้า ภาพสามี-ภรรยาคู่หนึ่งปั่นแกมจูงจักรยานบรรทุกสัมภาระจนล้นทั้งสองคันโดยมีลูกน้อยนั่งบนท่อนั่งจักรยานคันของพ่อ ลักษณะ
เป็นการเดินทางหรือย้ายบ้าน(แคมป์)ด้วยจักรยานเพราะมีอุปกรณ์ยังชีพมาครบ
.
ความประทับใจของผมไม่ได้เกิดขึ้นเพราะครอบครัวจักรยานเพราะจริงๆแล้วในสังคมไทยเรามีครอบครัวหรือผู้คนจำนวนมากที่ใช้จักรยาน
เพราะความจำเป็น ความเคยชิน จนเป็นความรักที่ผมประทับใจเพราะว่าทั้งคู่ปั่นแกมจูงแบบกุเตงกุเตงเพราะบรรทุกเกินแถมยังมาเจอ
อุปสรรคคือหาบเร่ แผงลอยและการซ่อมทางเท้าของสำนักโยธาฯ
.
ผมเฝ้ามองคู่รักคู่นี้ด้วยความสนใจและทำอะไรไม่ถูกแต่ก็ยังสังเกตุต่อไป เมื่อฝ่ายสามีและลูกจูงจักรยานผ่านอุปสรรคไปได้ก็ได้ไปจอดพิง
กำแพงห้างดังไว้แล้วอุ้มลูกลงเดินมาช่วยฝ่ายภรรยาประคองจักรยานผ่านบันใดทางเดินที่มีสิ่งกีดขวางมากมาย โดยมีลูกน้อยยื่นมือเรียก
ผู้เป็นแม่และส่งเสียงให้กำลังใจประมาณว่าลุ้นสุดๆ คิดแล้วน้ำตาคลอผมมองเห็นความรักความอบอุ่นเล็กๆที่ยิ่งใหญ่มากๆของ
ความรักระหว่างทาง…เท้า
.
หลังจากผมออกจากภวังค์ความอึ้งผมรีบเดินลงจากสะพานลอยฟ้ากทม.หวังจะเข้าไปพูดคุยทักทายในฐานะคนรักจักรยานเหมือนกัน
แต่เพราะทางเท้าไม่ใช่ทางเท้าที่ใช้เดินอย่างเดียวมีทั้งหาบเร่ แผงลอยอุปสรรคมากมาย ระยะทางแค่ไม่ไกลผมก็ตามเค้าไม่ทันซะแล้ว
.
แน่นอนว่าเค้าคงไม่หายเข้าไปในห้างดังอย่างสยามดิสฯหรือพาราก้อนแน่นอน ผมยังค้างคาใจหลายๆเรื่องที่อยากพูดคุยทักทายถึง
ครอบครัวและการใช้จักรยานเพื่อจะได้เป็นวิทยาทานสำหรับผู้ที่ตามหาความรัก ความพร้อม หรือคนที่บอกว่ามีอุปสรรคมากมายใน
การใช้จักรยานหากเพื่อนๆหรือใครพบเห็นคู่รักครอบครัวนี้ฝากบอกพวกเค้าด้วยนะครับว่า….
……คุณทั้งสาม ยอดมากเลย.
veenono.